...ล้ว ไม่ๆเกินสิบกว่าปีแล้ว ที่ไม่ได้พบเจอกัน หลังจากงานปัจฉิมนิเทศ เคล้าน้ำตา งานเลี้ยงรุ่นปีไหนๆผมไม่ค่อยจะแยแสกลับมา ด้วยเพราะงานการและความรับผิดชอบ หรือเป็นเพราะวันสุดท้ายที่เราแยกจากกันล้วนเต็มไปด้วยเรื่องที่ไม่น่าจดจำก็ตามที . ผมลืมไปแล้ว ผมลืมมันไปนานแล้วล่ะ คุณก็รู้ว่าไม่ใช่กาลเวลาหรอกที่ทำให้เราลืม แต่เป็นเราเองนี่แหละที่ลืมเลือนมันไปอย่างช้าๆ จากเรื่องที่เคยกระทำชำเราจิตใจเราจนชอกช้ำ กลับแปรสภาพกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขบขันที่ถูกแต่งแต้มเสียจนผิดรูปหรือต้องอาญาพาร์กินสันให้ปลาศนาการไปในวันใดวันหนึ่ง . เย็นย่ำวันนั้นในโถงอาคารโรงยิม คืองานคืนสู้เหย้า ที่เย้ายวนให้ความทรงจำผมกลับสู่เหย้าเคล้าความรู้สึกในวันเยาว์อีกครั้ง เธอนั่งอยู่ที่ฟากฝั่งตรงข้ามของโต๊ะจีน ผมจำบรรยากาศใดๆของงานในวันนั้นได้เพียงน้อยนิด เพื่อนฝูงที่พาลูกเต้ามาวิ่งให้ยั้วเยี้ย คำถามถึงหน้าที่การงานอวดร่ำ อวดรวย . เพื่อนคนนั้นได้กับคนนี้ก่อนที่คนนี้จะเลิกแล้วไปได้กับเพื่อนห้องข้างๆ ส่วนเพื่อนคนนั้นคนแรกกลับไปแต่งงานกับน้องของเพื่อนที่กำลังเล่า และตอนนี้ก็กลับมาหย่ากันอีกแล้วเพราะไปกันไม่รอด ฟังๆดูแล้วก็เพลิดเพลินดีแทนคนที่ได้ทดลองเปลี่ยนคู่นอนไปกับเขาด้วย ผมฟังเป็นรองแต่ผมมองที่เธอเป็นหลัก . แม้ก่อนหน้านี้ผมจะลืมเธอไป หรือแกล้งคิดว่ามันหายไปจากความทรงจำผมไปแล้ว แต่การปรากฏตัวของเธอในงานเลี้ยงคืนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายนัก เพื่อนมักชอบบอกว่าเธอเป็นคนเก็บตัว ทุกครั้งที่มีคนถามถึงเธอ บางคนก็พูดว่าเธอได้กับเพื่อนคนนั้น บางคนก็บอกว่าเธอลงเอยกับเพื่อนตอนมหาลัย . ตลอดงานผมทักทายครูเก่าๆที่ยังคงสอนในโรงเรียนอยู่ โรงเรียนอุปมาได้ดั่งนาวาลำเขื่องที่ไหลแล่นอยู่บนห้วงมหรรณพ ผู้คนที่มีความสัมพันธ์ในนาวาลำเขื่องนี้ยังคงผูกพันธ์กันผ่านความทรงจำของวันวานหลายชีวิตสำเร็จการศึกษาไป ขณะที่หลายชีวิตยังคงสอนนักเรียน หลายชีวิตเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน . ขณะที่หลายชีวิตยังคงติดหล่มกับงานสับปะรังเค หลายชีวิตให้กำเนิดชีวิตใหม่ ขณะที่หลายชีวิตเดินทางจากโลกนี้ไปแสนไกล หลายชีวิตต่อสู้ดิ้นรนจนประสบความสำเร็จ ขณะที่หลายชีวิตยังคงต่อสู้ และชีวิตยังคงแดดิ้นอยู่ โรงเรียนยังคงชื่อเดิม ที่อยู่เดิม กองอิฐปูนเดิม ปรับเปลี่ยนบ้างตามสภาพ . แต่ยังมีการก้าวเดินทางอีกมากที่ไม่อาจปรากฏอยู่ในบทสนทนา แต่เพียงมองแววตาก็พอเข้าใจ ผู้คนที่ไม่พานพบมาหลายปี เมื่อได้เจอกันคำพูดนั้นไม่อาจเติมเต็มความรู้สึกโหยหา เรื่องราวคงมีให้เล่าได้ไม่มีวันหมด และหลายสิ่งไม่อาจสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า และหนึ่งในสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือแววตาของเธอ . ไม่ว่ารอยยิ้มเธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหน รอยตีนกาที่เริ่มปรากฏ แก้มที่เปลี่ยนไปจากการฉีดโบท็อกเล็กน้อย นิ้วมือเรียวเล็กที่ได้รับการดูแลให้ชุ่มฉ่ำ ใบหน้าที่ถูกประทินด้วยเครื่องสำอางค์มีชื่อ แต่ภายใต้มายาการแต่งเติมเหล่านั้นยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป สิ่งนั้นคือแววตาเป็นประกาย . ก่อนที่จิตใจผมจะฟุ้งกระเจิงไปกับวิสกี้ราคาถูกที่เจือกระจายอยู่กับโซดาและน้ำแข็งยูนิต เพราะเพื่อนจัญไรยกมาชนแล้ว ชนเล่า คอยพล่ามเรื่องเล่าในอดีตอย่างสบายอารมณ์ เธอก็จับข้อมือของผม มือของเธอเย็น ผมหันไปตามเธออย่างรวดเร็ว ท่ามกลางวงปาร์ตี้ท่องอดีตกาล เธอกระซิบต่อผมว่า "ตามมา" . ผมปลีกตัวขอลาจากงานปาร์ตี้ ก่อนงานจะเลิก เพื่อตามไปพบกับเธอที่มุมหน้าบันไดของชั้นเรียน ตามที่เธอบอก ตอนนั้นเป็นเวลาสองทุ่มเศษ ผมเดินเลาะตามทางที่เคยคุ้นในวัยเด็กไป ราวกับเดินทางก้าวข้ามสะพานสู่อดีต กลับไปสู่วันวานครั้งยังเป็นเด็กกางเกงขาสั้น และก็เป็นเธอที่ยืนรอผมอยู่หน้าบันได . เธออยู่ในเสื้อเชิ๊ตคอปกสีขาวใส่ในกางเกงตามแบบสาวออฟฟิศทั่วไป เธอว่าเบื่อ หลังจากที่ผมถามเธอว่าออกมาจากงานทำไม โรงเรียนในยามที่ความมืดปกคลุม เป็นภาพที่ไม่ค่อยคุ้นนัก ยิ่งเป็นโรงเรียนที่เราจากมาสิบกว่าปียิ่งทำให้มันดูแปลกสิ่งที่แปลกที่สุดคือขนาดของมัน มันดูเล็กลงมากในความรู้สึก . เธอนำพาผมขึ้นไปบนบันไดเราสองคนกึ่งเดินกึ่งย่อง เพราะเวลาแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่ภารโรงมักขึ้นมาตรวจตราบ้าง และเราคงไม่อยากแจ็คพอตเหมือนในอดีต เธอบอกกับผมว่าอยากย้อนรำลึกถึงเรื่องราวครั้งวันวาน สมัยที่เธอยังสวมกระโปรงสีน้ำเงิน prussian blue และผมสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ultramarine . เราเปิดประตูของห้องเรียนชั้นประถม 5 ซึ่งอยู่ชั้นสี่ของตึก จุดนี้ไม่อยู่บนจนเกินไป และไม่ล่างจนเกินไป ภาพของเธอในคืนวันนี้ทำให้ผมหวนย้อนกลับไปถึงเย็นของวันนั้น ในวัยนั้นเราต่างอยากรู้อยากเห็น เธอเล่นอินเตอเน็ตแล้วพึ่งเรียนรู้ถึงโลกแห่งการทรมาน ส่วนผมยังอยู่ในวัยที่เปี่ยมความกระสัน . ในวันนั้นเราต่างเตรียมน้ำแข็งที่ซื้อมาจากร้านโชว์ห่วย เราแอบยืมหลอดทดลองวิทยาศาสตร์มาจากห้องวิทยาศาสตร์ พู่กันตราสง่า มะยุระเบอร์ 6 เบอร์ 12 เชือกป่านเส้นเล็กและที่หนีบผ้า ทุกอย่างเกิดจากความต้องการร้องขอของเธอ ผมทำหน้าที่เตรียมอุปกรณ์และเราสองคนก็ใช้ห้องเรียนประถมนี้เป็นสังเวียน . ผมเริ่มด้วยการมัดเธอด้วยเชือกป่าน แต่เส้นมันเล็กเกินไป ก่อนที่ผมจะแอบไปค้นเอาเทปกาวจากลิ้นชักของครูประจำชั้นมารวบมัดมือของเธอแทน ผมยกแขนทั้งสองข้างของเธอขึ้นให้เทปกาวก็ทำหน้าที่พันธนาการ ก่อนจะปลดกระดุมจากชุดนักเรียนสีขาวของเธอออกเผยให้เห็นชุดชั้นในสีแดงที่เธอเตรียมมาอย่างดี . ผมไม่รอช้าใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ผมพกมาทุกวันมัดเป็นเกลียวผูกตาของเธอให้มืดสนิท ถามว่าเธอเห็นมั้ย เธอกล่าวปฏิเสธ เราสองคนเลือกมุมของห้องที่อับที่สุดเท่าที่จะอับได้เพื่อไม่ให้ภารโรง หรือครูที่เดินผ่านมองเข้ามาเห็นได้ ในตอนนี้ผมเริ่มใช้น้ำแข็งยูนิตไล้หัวนมที่ผมควักออกมาจากชั้นในแดงของเธอ . เธอร้อง อู้ววซ์ อ่าาซ์ อย่างพึงพอใจ ก่อนที่ผมจะเอาพู่กันมาไล้รอบหัวนมสีน้ำตาลเข้มของเธอ จมูกผมกระหน่ำดอมดมกลิ่นสาบสาวจากรักแร้ใต้วงแขนเสื้อของเธอ กลิ่นที่ยังคงติดอยู่ในโสตสัมผัสของผมตราบจนถึงคืนวันนี้ ในวันนั้นผมเริ่มปลดเปลื้องกระโปรงนักเรียนของเธอและรูดเอากางเกงในสีแดงลงเล็กน้อย . สิ่งที่ผมไม่เคยได้เห็น เป็นครั้งแรก และเป็นครั้งเดียวในชีวิต คือคลิตอริสของเธอบวมเป่ง จากสีชมพูอ่อนกลายเป็นสีชมพูสดเกือบแดง ผมเอาพู่กันเบอร์ 6 มาทาสลับกับก้อนน้ำแข็งสร้างความเสียวสะท้านต่อเธออย่างรุนแรง ลำตัวเธอบิดไปมา และพยายามกลั้นไม่ให้เสียงเสียวสุดขีดหลุดออกไปนอกจากห้องเรียน . ผมใช้ที่หนีบผ้าหนีบหัวนมสีน้ำตาลเข้มของเธอ เธอหลุดร้องซี๊ด แล้วตามด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่น้ำแข็งจะละลายจนหมด ผมเอาหลอดทดลองวิทยาศาสตร์แช่ลงจนเย็นเฉียบ แล้วค่อยๆยัดมันเข้าไปในช่องคลอดของเธอ พอแท่งแก้วนั้นเสียบเข้าไป เอวเธอกระเด้งรับโดยอัตโนมัติ และโยกเข้า-ออกรับกับแท่งแก้วสวาทนั้น . ผมใช้กางเกงในของเธอรัดแท่งแก้วนั้นไว้ ขึงตรึงไว้กับช่องคลอด ยันแช่เอาไว้ให้เธอเสียวสุดใจ ที่หนีบผ้าพลาสติกราคาถูกห้อยต่องแต่ง ผมเริ่มใช้เทปกาวของคุณครูประถมมารัดข้อเท้า ในตอนนี้ เธอเริ่มร้องอย่างทุรนทุราย นี่คือนาฏกรรมวิตถารครั้งแรกในชีวิตของเราสองคน ผมมองและดอมดม และกัดเธอต่อไป . เราต่างเป็นคนแรกของกันและกัน เราต่างเป็นมือสมัครเล่นของกันและกัน เราต่างอยากรู้อยากลองและร่วมเต้นระบำขาดๆเกินๆไปด้วยกัน และเช่นเดียวกันกับคืนนี้ คืนที่เราต่างไม่ได้เตรียมตัว เตรียมใจ ไม่มีน้ำแข็ง ไม่มีไม้หนีบเสื้อ ไม่มีหลอดแก้ว ไม่มีชุดนักเรียน มีเพียงเราสองคนที่บังเอิญมาพบกัน . หลังจากที่เราจุมพิตอย่างแผ่วเบา เธอเริ่มเร่งเร้า และปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีดำของผมออก และเริ่มระดมจูบหน้าอกผมไล่ไปจนถึงท้องน้อย และเริ่มรูดซิบออก เธอคนเดิมกับที่ผมเคยทรมานกลางห้องเรียนแห่งนี้ ห้องเรียนแห่งเดียวกันที่เคยสอนบทเรียนรสรักร้อนฉ่า วิชาพันธนาการศึกษา 101 ที่ผมและเธอถวิลหา . เธอขึ้นคร่อมผม และเริ่มเอาดุ้นที่แข็งเต็มที่ไปสวมใส่ เธอร้องอ้าาาซ์ อย่างมีความสุข และเริ่มโยก เยก โยก เยก ผมพยายามจะปลดกระดุมของเธอแต่เธอปัดมือผมออก แล้วปลดกระดุมด้วยมือตัวเอง เธอไม่ให้ผมทำสิ่งใด นอกไปจากทำตามสิ่งที่เธอต้องการ เธอปลดชั้นในสีขาวและเหวี่ยงทิ้งไปกับพื้นและโยกต่อไป . เธอหยิบคว้าเอาเทปกาวจากลิ้นชักไม้ของเด็กนักเรียนมาตอนไหนไม่ทราบได้ แต่เธอเอามามัดข้อมือของผม และดึงเอาเนคไทผ้าไหมสีเทาลายขวางของผมมาผูกตาผม เธอยังคงโยกผมต่อไป และดูเหมือนจะเร่งเร้าจังหวะให้แรงขึ้น แรงขึ้น ผมร้องอู้ว อ้า อย่างมีความสุข และในทันทีที่ผมจะแตกใส่ช่องคลอดของเธอนั้น . เธอกลับลุกขึ้นยืน ผมบิดตัวไปมาแบบหนอน แล้วบอกว่าทำไมล่ะ ต่อสิ ต่อ เธอเงียบผมไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน ก่อนที่จะเลิกเนคไทที่ผูกตาผมออกมาผูกกับปากไม่ให้ผมเอ่ยวาจาใดๆได้ พูดยังคงพูดอู้อี้อ้อนวอนให้เธอกลับมา เสียบผมต่อ ในตอนนี้เธออยู่ในร่างเปลือยเปล่าและยืนจ้องมองที่ผมซึ่งดิ้นทุรนทุราย . เธอมองผมนิ่งเงียบแล้วเดินไปค้นหาหนังสือ และสมุดใต้ลิ้นชักของนักเรียน ลี้นชักแล้ว ลิ้นชักเล่า ก่อนจะพบสิ่งที่เธอต้องการ เธอหยิบมันมาที่ผม ในห้องมืดทึบ มีเพียงแสงจากโคมไฟภายนอกส่องให้เห็นบ้าง เธอในร่างเปลือยเปล่าสูงโปร่งเดินไปมารอบกายที่ดิ้นพล่านกับพื้นกระเบื้องสีฟ้าอ่อนของผม . สิ่งที่เธอหาได้จากลิ้นชักไม้ของเด็กประถมคือคลิปหนีบกระดาษสีดำตัวเล็กกำมือหนึ่ง เธอนำมันมาหนีบกับหัวนมของผมทั้งสองข้าง และใช้มันหนีบเข้ากับหูอีกสองข้างของผม ผมร้องอู้อี้อย่างเจ็บปวด น้องชายผมเริ่มหดตัว แต่ยังไม่ทันจะสงบลงเธอก็ใช้มือและปากปลุกปล้ำมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ! . แท่งนั้นถูกยัดเข้าไปที่ปากของเธอ ลิปสติกสีแดงกับปากอันอวบอิ่มบรรจงจูบและดูด และย้อนดูดที่พวงสวรรค์ด้านล่างต่อ ผมร้องอู้ๆ จนมันตั้งตัวตรงอีกครั้ง เธอชักมันสักพัก ก่อนจะเริ่มสอดใส่ช่องคลอดของเธออีกครั้ง เธอทำมันเหมือนกับผมเป็นของเล่น และน้องชายผมคือเครื่องไวเบรเตอร์ที่กด ON/OFF ได้ . เธอโยกเครื่องเล่นของเธอต่อไป บดขยี้อย่างพึงพอใจ ร่อนเอวดั่งหนุ่มน้อยผู้ควบเครื่องเล่นกระทิงโชว์พาวให้สาวๆเห็น เธอจิกกินเนื้อหนังของผม เธอขบหน้าอกของผมและเขี่ยที่หนีบกระดาษสีดำบนหัวนมผมอย่างมีความสุข ไม่นานหลังจากนั้นเธอเสร็จ และน้ำเธอแตกพุ่งพล่านลงบนพุงของผม แต่ผมยังไม่เสร็จ! . ผมส่งสายตาบอกกับเธอ อ้อนวอนให้เธอขึ้นต่ออีก และเธอก็ทำ ผมพยักหน้าเป็นการขอบคุณ ตอนนี้หูผมชาด้วยฤทธิ์ของแผงหนีบกระดาษที่เธอหนีบไว้กับหูผม แต่ผมไม่สนอะไรอีกแล้วผมต้องการที่จะหลั่ง แบบเดียวกับที่เธอเพิ่งเสร็จ แต่ในทันทีที่ผมใกล้จะหลั่ง เธอก็หยุดและลุกขึ้นยืน ผมช็อค! และบิดตัวไปมา . ผมไม่เหลืออำนาจในการเจรจาต่อรอง ขาดไร้ซึ่งอธิปไตย น้ำตาผลเริ่มไหล เธอนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ และค่อยๆเอนหน้าเข้ามามองแววตาที่น้ำตาไหลย้อยของผม ก่อนจะบอกต่อผมว่า "ลาก่อน" ผมร้องอู้อี้สะบัดมือและเท้าไปมา ก่อนที่เธอจะเดินเปลือยเปล่าออกไปจากห้องประตูของห้องเรียนถูกปิด ผมค่อยๆมองเธอจากไป . หลังจากวันเลี้ยงรุ่นวันนั้นผมไม่ได้พบเจอเธออีก ผมไม่ได้แวะไปที่โรงเรียนเก่านั้นเลย เป็นเวลาหลายปีแล้ว เมื่อถามไถ่เพื่อนที่พอรู้จักเธอบ้าง ก็ได้เพียงข้อมูลเก่า และสุดท้ายคำถามของคำตอบก็มักลงเอยด้วยประโยคที่ว่า เธอเป็นคนเก็บตัว ไม่มีใครพบเจอเธออีก จนกว่าจะมีงานเลี้ยงรุ่นอีกครั้ง.